เพชรจากแลป คืออะไร ใช่เพชรแท้ไหม?

เพชรจากแลป หรือ Lab Grown Diamonds กำลังเป็นเพชรเทรนด์ฮิตสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคู่รักที่กำลังเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว เพราะราคาจับต้องได้ และไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างเพชรธรรมชาติและเพชรจากแลปได้ด้วยตาเปล่า  ฉะนั้น วันนี้ Kos Jewelry Thailand จะพาไปทำความรู้จักกับเพชรจากแลปเสียก่อนจะลงทุนซื้อแหวนหมั้นสักวง หรือเครื่องประดับหรูสักชิ้น

เพชรจากแลป คืออะไร?

เพชรจากแลปคือเพชรที่ผลิตขึ้นในห้องแล็บ ผ่านการควบคุมสภาพแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีทั้งหมด เช่น เพชร HPHT และเพชร CVD ที่มีความแข็งและคุณสมบัติทางเคมีไม่ต่างจากเพชรธรรมชาติ  ต่างจากเพชรสังเคราะห์ เช่น คิวบิกเซอร์โคเนีย (Cubic Zirconia) และ มอยซาไนต์ (Moissnite) ที่ถึงแม้จะผลิตในห้องแล็บ แต่ลักษณะทางเคมีและกาพภาพต่างจากเพชรธรรมชาติโดยสิ้นเชิง

เพชรจากแลป มีกี่ชนิด?

เพชรจากแลปที่นิยมผลิตมี 2 กรรมวิธีด้วยกัน ได้แก่เพชร HPHT (High Pressure High Temperature Diamonds) และเพชร CVD (Chemical Vapor Deposition Diamonds)

โดยเพชร HPHT ถือกำเนิดในปีค.ศ. 1950 เป็นการผลิตเพชรขึ้นในห้องแล็บที่จำลองสภาวะให้เหมือนใต้พื้นโลก ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกันกับการเกิดของเพชรธรรมชาติ โดยอาศัยแรงดันผนวกกับอุณหภูมิที่สูงจัด จนคาร์บอนหลอมละลายกลายเป็นเพชรทรง 14 เหลี่ยม

ในขณะที่เพชร CVD ถูกคิดค้นขึ้นในปีค.ศ. 1980 โดยอาศัยการสะสมไอสารเคมีภายในห้องสุญญากาศความร้อนสูง จนคาร์บอนไดออกไซด์แตกตัวเป็นไอออน และตกผลึกเพชรทรงลูกบาศก์ ซึ่งทั้งสองกระบวนการจะต้องใช้เพชรธรรมชาติขนาดเล็กเป็นตัวตั้งต้นในการผลิต

อย่างไรก็ตาม เพชรทั้งสองแบบไม่สามารถแยกความต่างได้ด้วยตาเปล่า ยิ่งนำเพชร CVD ไปปรับปรุงคุณภาพด้วยกรรมวิธีแบบ HPHT เพื่อให้เพชรขาวใสและได้สีที่สวยยิ่งขึ้น ยิ่งแยกความต่างได้ยากมากขึ้น ฉะนั้น เพชรจากแลปสามารถเป็นได้ทั้งเพชร HPHT และเพชร CVD โดยใบรับรอง GIA และ IGI จะระบุว่าเพชรจากแลปผลิตด้วยกรรมวิธีใด และมีรายละเอียดชี้แจงอย่างชัดเจน

เพชรจากแลป เป็นเพชรแท้หรือเพชรปลอม?

เพชรจากแลปที่ผลิตด้วยกระบวนการ HPHT และ CVD คือเพชรแท้ เพราะผลิตจากเพชรธรรมชาติขนาดเล็กผนวกรวมกับกรรมวิธีการผลิตที่คล้ายคลึงกับกรรมวิธีการเกิดเพชรทางธรรมชาติ แต่อาศัยเทคโนโลยีภายในห้องแล็บ จนเกิดเพชรจากแลปที่มีคุณลักษณะทางเคมีและกายภาพไม่ต่างจากเพชรธรรมชาติ

เพชรจากแลป ราคาเท่าไหร่?

เพชรจากแลป หากเป็นเพชรทรงกลมน้ำ 100 (D) มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 167,000.- บาท ไปจนถึง 430,000.- บาทขึ้นไป ในขณะที่เพชรธรรมชาติอาจราคาสูงได้ถึง 830,000.- บาท ซึ่งราคาแตกต่างกับเพชรจากแลปหลายเท่าตัว 

เพชรจากแลป ต่างจากเพชรธรรมชาติอย่างไร?

เพชรจากแลปและเพชรธรรมชาติ ต่างกันที่กระบวนการเกิด เพชรจากแลปผลิตขึ้นในห้องที่จำลองสภาวะให้ปลูกเพชรที่มีลักษณะทางกายภาพและเคมีไม่ต่างจากเพชรธรรมชาติ อาศัยเวลาผลิตเพียงไม่กี่เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพชรแท้ในราคาสบายกระเป๋า 

ในขณะที่เพชรธรรมชาติต้องอาศัยแรงกดดันของเปลือกโลกร่วมหลายล้านปี และต้องขุดขึ้นมา ทำให้มีราคาสูงกว่า แต่เหมาะสำหรับการลงทุน

แต่ถ้าจะต้องเจาะลึกถึงรายละเอียดทางกายภาพที่แตกต่างกันระหว่างเพชรจากแลป และเพชรจากธรรมชาติ อาจไม่จำเป็นเท่าไหร่นัก เพราะทันทีที่เพชรทั้ง 2 ชนิดประดับลงบนแหวน ก็ไม่สามารถแยกความต่างได้ และต้องอาศัยเครื่องมือเฉพาะทางเพื่อตรวจเช็กรายละเอียด ควบคู่ไปกับความชำนาญของผู้เชี่ยวชาญด้วยเช่นกัน

ข้อดีของเพชรจากแลป

เพชรจากแลปมีข้อดีที่ตำหนิน้อย เพราะควบคุมสภาพแวดล้อมการผลิตได้ ใช้เวลาผลิตที่น้อยกว่า โดยเพชรจากแลปสามารถผลิตสีเพชรที่ตรงความต้องการได้มากกว่า ต่างจากเพชรธรรมชาติที่ต้องขุดหา 

เพชรจากแลปจึง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเพชรน้ำดี คุณภาพสูง แต่จ่ายในราคาย่อมเยา   

เพชรจากแลปคุณภาพดีที่น่าเชื่อถือ ต้องเพชรจาก Kos Jewelry Thailand เพราะราคาสบายกระเป๋า ดีไซน์หลากหลาย ปรับแต่งได้ตามต้องการโดยช่างเพชรฝีมือดี มีผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีศาสตร์คอยให้ปรึกษาตลอดการซื้อ มั่นใจได้ว่าเพชรจากแลปของ Kos Jewelry Thailand สวยไม่แพ้เพชรธรรมชาติแน่นอน